วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ถ้ำผานางคอย



ถ้ำผานางคอย
        เป็นถ้ำสวยงามอยู่ที่ บ้านผาหมู อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ปากถ้ำอยู่ภูเขาสูงจากพื้นดินประมาณ 50 เมตร มีบันไดไต่เลียบเลี้ยววกขึ้นไปจนสุดทาง บันไดเป็นดินและหิน มีลานกว้างเป็นที่นั่งพัก ก่อนจะเข้าสู่ถ้ำด้านขวามือเป็นซอกเขา มีทางขึ้นไปไม่สูง ข้างบนมีลานหินเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่นั่ง เรียกกันว่า ลานนางคอย นอกจากนี้ เมื่อเข้าไปกลางถ้ำจะพบกับ หินงอกขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงอุ้มลูก จึงได้ชื่อว่า ผานางคอย และ ภายในถ้ำแห่งนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปให้คนที่เข้ามาในถ้ำแห่งนี้ได้นมัสการ อีกด้วย
      ตำนาน ถ้ำผานางคอยนั้น มีการเล่ามาหลายตำนานอยู่เหมือนกัน แต่ตำนานหนึ่งที่มีคนกล่าวขานถึงมากที่สุด มีความว่า เมื่อสมัยที่อาณาจักรแสนหวียังเจริญรุ่งเรือง เจ้าผู้ครองนครมีราชธิดาผู้สิริโฉมงดงามมาก นามว่านางอรัญญนี วันหนึ่งนางเสด็จประพาสโดยเรือพระที่นั่งเกิดมีพายุใหญ่พัดกระหน่ำมา ทำให้เรือพระที่นั่งพลิกคว่ำนางอรัญญนีพลัดตกลงในน้ำ ฝีพายหนุ่มคนหนึ่งได้กระโดลงไปช่วยชีวิตนางไว้ได้
     ตั้งแต่นั้นมา ทั้งสอง ได้แอบติดต่อกัน โดยปิดบังไม่ให้พระราชบิดาของนางล่วงรู้ จนนางอรัญญนีตั้งครรภ์ขึ้น  พระราชบิดาของนางกริ้วมาก สั่งให้ทำโทษนางและกักขังไว้ แต่ ฝีพายหนุ่มซึ่งเป็นคนรักของนาง ได้แอบเข้าไปหานางถึงในที่คุมขังและพานางหลบหนีออกมา
     เมื่อเจ้าครองนครได้ทราบเรื่องที่ ฝีพาย พาธิดาของพระองค์หนีออกจากที่คุมขัง จึงได้ให้ทหารติดตามทั้งสองไป เมื่อทหารขี่ม้าเข้าใกล้ทั้งสอง จึงได้ยิงธนู หมายจะเอาชีวิตของฝีพาย แต่ลูกธนูพลาดไปโดน ธิดาของเจ้าครองนคร
ทั้งคู่ จึงได้หลบหนีเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง โดย ฝ่ายหญิงนั้น รู้ตัวดีว่าบาดเจ็บสาหัสมาก คงจะไม่รอดเป็นแน่ จึงขอร้องให้ฝีพาย หนีไป โดยนางสัญญาว่า จะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ฝีพายหนุ่มจึงจำใจหนีออกไปแต่เพียงผู้เดียว  ซึ่งนางได้ดูคนรักของนางหนีออกไปจนลับสายตา และเสียชีวิต ณ ถ้ำแห่งนั้น
     โดย ลานที่นางนั่งดูสามีหนีออกจากถ้ำไป ต่อมาเรียกว่า ลานนางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย ซึ่งในปัจจุบัน มีการสร้างรูปปั้น อนุสาวรีย์เป็นรุป นางอรัญญาณี กับ ฝีพายหนุ่ม ในขณะที่ขี่ม้า หลบหนีจากที่กุมขัง ตามตำนานที่กล่าวมาแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น